ฟ้อนกิงกะหร่า เป็นศิลปะการแสดงของชาวไทใหญ่ คำว่า "กิงกะหร่า" เป็นคำ ๆ เดียวกับ
คำว่า กินนร หมายถึง อมนุษย์ในนิยายมี ๒ ชนิด ชนิดหนึ่งเป็นครึ่งคนครึ่งนก ท่อนบนเป็นคน
ท่อนล่างเป็นนก อีกชนิดหนึ่งมีรูปร่างเหมือนคน เมื่อจะไปไหนมาไหนก็จะใส่ปีกใส่หางบินไป
การฟ้อนกิงกะหร่าเป็นการเลียนแบบอมนุษย์ชนิดนี้ สำหรับความเป็นมานั้นมีเรื่องเล่าว่า
ในสมัยพุทธกาล หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากการไปจำพรรษาเพื่อโปรดพุทธมารดา
ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ขณะเสด็จลงสู่โลกมนุษย์นั้น พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้พร้อมใจกัน
นำอาหารไปทำบุญตักบาตร ที่เรียกว่า "ตักบาตรเทโวโรหนะ" พร้อมนั้นบรรดาสัตว์
ต่าง ๆ จากป่าหิมพานต์อันมี กินนร และ กินนรี เป็นต้น พากันมาฟ้อนรำแสดงความยินดี
ในการเสด็จกลับมาของพระพุทธ- องค์ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดประเพณีตักบาตรเทโวโร-หนะ
และเฉพาะชาวไทใหญ่นิยมแต่งกายเป็นกินนรและกินนรีแล้วร่ายรำเลียนแบบ
อากัปกิริยาของอมนุษย์ประเภทนี้ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เมื่อการแสดงชนิดนี้
เผยแพร่ออกไปในวงกว้างจึงนิยมแสดงในโอกาสอื่นนอกเหนือจากแสดงในช่วง
เวลาดังกล่าว
ชุดกิงกะหร่ามีส่วนประกอบ ๓ ส่วน คือ
ปีก หาง และลำตัว เฉพาะปีกและหางทำด้วยไม้ไผ่หรือหวาย แต่ละส่วนจะทำเป็น
โครงก่อนแล้วผ้าแพรสีต่าง ๆ ติดหุ้มโครงและใช้กระดาษสีตัดเป็นลวดลายตกแต่งให้สวยงาม
จากนั้นนำมาประกอบกันโดยใช้ยางรัด เชือกหรือหวายรัดให้แน่น พร้อมทำเชือกโยงบังคับปีก
และหางสำหรับดึงให้สามารถกระพือปีก และแผ่หางได้เหมือนนก ส่วนลำตัวผู้ฟ้อนจะใส่
เสื้อผ้าสีเดียวกับปีกและหาง (อุปกรณ์การฟ้อนนี้ พบว่าบางแห่งมีเฉพาะหางเท่านั้น) นอก
เหนือจากนี้ ส่วนของศีรษะอาจมีการโพกผ้าหรือสวมหมวกยอดแหลมหรือสวมหน้ากาก
ซึ่งแล้วแต่ความนิยมของท้องถิ่น
ท่ารำ จะเป็นท่าที่เลียนแบบอากัปกิริยาของนกเช่น ขยับปีก ขยับหาง บิน
กระโดดโลดเต้นไปมาตามจังหวะของกลอง ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีสำคัญในการกำหนดท่า
การฟ้อนกิงกะหร่า บางครั้งจะแสดงคู่ชายหญิงโดยสมมุติเป็นตัวผู้และตัวเมีย แต่ส่วนใหญ่
ที่พบมักเป็นตัวเมีย จึงมีชื่อเรียกตามที่เห็นอีกชื่อคือ “ฟ้อนนางนก”
หน้าหลัก / สิ่งที่น่าสนใจ / ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ฟ้อนกิงกะหร่า

เอกสารประกอบ
รูปภาพเพิ่มเติม (7 รูป)







ความคิดเห็น (0)
ยังไม่มีความคิดเห็น